อาจารย์หยิบยกดวงของหมอปลาขึ้นมาวิจารณ์ มิใช่เป็นการซ้ำเติม เพียงแต่อยากเผยแพร่มิติหนึ่งที่หมอปลาไม่เคยพูดถึงเลย นั่นคือ ภิกษุผู้ฑุศีลนั้น กระทำอาบัติข้อใด เป็นกรรมอย่างไร ตถาคตกล่าวไว้เช่นไร? ไม่มีการพูดถึงกันเลย
มีแต่อธิบายความรู้สึกกันล้วนๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่วิสัยบัณฑิต การที่เราจะวิจารณ์ภิกษุว่ากระทำอาบัติ เราก็ต้องอธิบายสังคมได้ว่าอาบัตินั้นร้ายแรงขนาดไหน? พระพุทธเจ้าบอกวิธีแก้อาบัตินั้นไว้อย่างไร? นี่คือวิสัยของผู้มีปัญญา และคนจะยกย่องว่า การกระทำของหมอปลานั้น เป็นการทำนุบำรุง ปกป้องพระพุทธศาสนาเองอัตโนมัติ มิใช่ตั้งทีมออกได้ล่า กระทำการเหมือนเช่นว่า ภิกขุนั้นฆ่าคนตาย
สิ่งหนึ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้คือ เดรัจฉานวิชา แปลว่า วิชาที่กระทำแล้วมีผลทำให้ไปเกิดเป็นเดรัจฉานภูมิ แม้แต่การดูดวง ที่อาจารย์กระทำอยู่นี้ ก็เป็นหนึ่งในเดรัจฉานวิชา แต่อาจารย์ใช้วิธีนี้เพื่อบอกวิธีแก้กรรมตามคำตถาคต อันมีชื่อว่า กัมมะนิโรธคามณีปฏิปทา อันเป็นการแก้กรรมด้วยการปล่อยวางทางใจ
แล้วคำว่า “เดรัจฉานวิชา” ไปเกี่ยวข้องอะไรกับหมอปลาล่ะ? การทุบศาลนั้นก็ดีอยู่ แต่ควรอธิบายให้คนได้เข้าถึงด้วยว่า ตถาคตกล่าวเรื่องนี้ไว้เช่นไร เป็นการเปลี่ยนทิฎฐิผู้คนให้เดินบนเส้นทาง “สัมมา”
มีการกระทำที่หลากหลายของหมอปลาที่น่าสรรเสริญ แต่ขาดความลึกซึ้งในธรรม การใช้เดรัจฉานวิชา ไปปราบเดรัจฉานวิชาด้วยกันเอง นี่ก็ไม่ใช่วิถีพุทธะ
หากหมอปลาแตกฉานในธรรมวินัย และหยิบยื่นสิ่งที่มันตรงๆจากปากตถาคต สู่ผู้คน นี่แหละคือผู้เลิศอันหาได้ยาก อันตถาคตสรรเสริญไว้เสมอ
มิใช่จุดกำเนิดมาจากหมอผี ไล่ล่าปราบหมอผี พัฒนาไปเป็นการปราบภิกษุผู้ฑุศีล ศาสนานั้นเป็นเสาหลักของชาติ เป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง มีระเบียบ มีลำดับขั้นตอน มีกฎเกณฑ์ มีกฎหมายของนักบวช มีกฎข้อห้ามและบทลงโทษในรูปแบบของนักบวช
ปัญหาของศาสนาก็ต้องใช้ศาสนาแก้กันเอง เพราะธรรมวินัยนั้นเป็นรากฐานของกฎหมายไทย ขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมนั้น ก็มาจากธรรมวินัยทั้งสิ้น
ฉะนั้นการปกป้องพระพุทธศาสนาที่หมอปลาว่า ยังขาดความลึกซึ้ง แตกฉาน ดูห่าม เด็ดขาด รุนแรง ใช้ความรู้สึกนำหน้า ใช้ปุถุชนคนธรรมดาที่ไม่ลึกซึ้งในธรรมวินัยไปยืนชี้หน้า และโยนคำพูดใส่ปาวๆๆๆ สิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำที่ใช้อารมณ์ อยู่เหนือแก่นแท้แห่งคำสอนตถาคตทั้งสิ้น
ผู้มีปัญญาทั้งหลายควรใช้วิจารณญาณแยกแยะ มีหลัก มีแก่น มีสรณะในการใช้ชีวิต แล้วจะไม่หลงทางนั่นเอง
อาจารย์ร่ายมาเสียยาว จึงขอวกกลับเข้าประเด็น วิบากกรรมของหมอปลากันต่อ ได้ฟังนักโหราศาสตร์ท่านหนึ่งวิจารณ์ไว้ว่า หมอปลาเจอวิบากกรรมย้อนกลับมาเข้าตัว จากการออกตระเวณทุบศาลพระภูมิ ปราบผี จนกระทั่งเลยเถิดมาไล่ล่าปราบพระ
อาจารย์ฟังแล้วก็คาใจอยู่ส่วนหนึ่งว่า นักโหราศาสตร์ท่านนั้น ใช้ศาสตร์ล้วนๆ หรือใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไป หรือไหลไปตามกระแสสังคม
จึงหยิบยกขึ้นมาดูเป็นการลับความคม ด้วยปัญญาอันน้อยนิด ประสบการณ์อันเล็กน้อย ผิดถูกประการใด ขอท่านผู้อาวุโส ให้อภัยผู้มาใหม่ในวงการ
อาจารย์คำนวณดวงของหมอปลา ได้ลัคนาที่28องศา 31ลิปดา ราศีกรกฎ ถูกผิดประการใดก็ไม่ทราบได้ เพราะไม่รู้เวลาตกฟากอันแท้จริง ใช้วิธีการย้อนรอยดูเหตุการณ์สำคัญๆในชีวิตหมอปลา เลยสรุปลงที่ว่าตรงนี้นี่แหละเข้าประเด็นที่สุด
ลัคนาราศีกรกฎ มีดาว๗เป็นเดชกุมลัคนา ดาว๗เป็นเรือนตนุเศษ จิตใจของหมอปลาก็เลยสนใจ-ใส่ใจอยู่แต่กับเรื่องภาคทิพย์ จิตวิญญาณ เพราะ๗เป็นเดช ทำให้หมอปลาโดดเด่น ผู้คนเรียกขานว่า มือปราบสัมภเวสี ก็เพราะดาวเดชดวงนี้แหละผลักดันชีวิต
ดาว๗เป็นดาวความรัก เป็นประกุมลัคนา ก็ถูกแล้วว่า หากอดีตมีแฟนก็ได้เลิกรา-หย่าร้างกันไป หากมีแฟนใหม่ ก็เป็นคนที่เคยผ่านการมีแฟนมาก่อนแล้วเช่นกัน ซึ่งก็ถูกต้องตรงกับปัจจุบันว่า หมอปลาแต่งงานกับคุณ “น้ำฟ้า”นั่นเอง
ลัคนาได้อัมพุเกณฑ์โดยอนุโลมกับดาวมฤตยู ทำให้หมอปลา มีความเข้มข้นในเรื่องมือปราบทางจิตวิญญาณ เพราะดาวมฤตยูดวงนี้ก็เป็นดาวภาคทิพย์อีกดวง หมายถึง มือปราบ หมอผี นักไสยศาสตร์ นักจิตศาสตร์ ชอบศึกษาสิ่งเร้นลับ เหล่านี้เป็นต้น
จุดเสียในดวง
- ดาว๔ อยู่เป็น9แก่ลัคนา เสวยเพชฌฆาตฤกษ์ ติดพิษนาค ส่งดาวอาทิตย์(๑)ไปเสวยเพชฌฆาตฤกษ์ซ้ำ ทำให้เสียในเรื่อง การสื่อสาร คำพูด มีความเด็ดขาด-อาจหาญ-แตกหัก อยู่เป็นเนื้อในสักวันหนึ่งคำพูดจะสร้างภัยมาถึงตัว โดยเฉพาะเรื่องคดีความ เพราะส่งดาว๑ไปตกมรณะ อันเป็นดาวจิตใจอีกดวงของเจ้าชะตา
- ดาว๒เป็นตัวตนของเจ้าชะตา อยู่เป็น8แก่ลัคนา เป็นจุดเสียในดวงอีกจุด เพราะดาว๒ตกมรณะ ส่งดาว๖อุตสาหะไปเสวยเพชฌฆาตฤกษ์ ติดพิษนาค
**นักโหราศาสตร์ท่านนั้นบอกว่า หมอปลามีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม พูดอะไรแล้วผู้หญิงคล้อยตาม และดาว๔,๖เป็นคู่อสีติธาตุน้ำกุมกันอยู่
แต่เนื้อในของดาวคู่นี้นั้นเสีย จะนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บในอนาคต เป็นโรคร้ายทุกข์ทรมาน รวมถึงมีศัตรูที่มองไม่เห็นจะตามมาจองล้าง เมื่อถึงคราวชีวิตขาลงในอนาคตนั่นเอง
ต่อไปเรามาซูมดูเนื้อในของดวงชะตาหมอปลา ให้ละเอียดลึกซึ้งลงไปอีก เริ่มจากหลักแรก นั่นคือหลักกรรมเก่า
หลักนี้เสวยฤกษ์เสีย เพชฌฆาตฤกษ์ ติดพิษเขี้ยว ส่งดาว๖อันเป็นลาภผล และการสร้างเนื้อสร้างตัว มาเป็นอุจจ์ ชีวิตจะประสบความสำเร็จ มีความรุ่งเรืองดี
แต่หลังวัย45ปีเป็นต้นมา จะเป็นช่วงชีวิตขาลง ลาภผลและความสำเร็จในชีวิตติดๆขัดๆ มีคดีความ มีศัตรูมุ่งเอาคืน ทั้งคนและภาคทิพย์
ดาว๗เป็นดาวฆาต เป็นดาวมรณะ มาทับลัคนาแบบสนิทองศา หลังวัย45ปีจะเสื่อมเดช หมายถึง มีคดีความเช่นกัน
ต่อไปเรามาดูกันที่หลักวาสนา หลักนี้เสวยวรโคตมนวางค์ ทำให้ช่วงวัยกลางจนถึงวัย45ปี หมอปลาโด่งดังในโลกโซเชียลมีเดีย เพราะหลักวาสนาให้คุณเต็มที่
เก่งในเรื่องของมือปราบสัมภเวสี ไสยศาสตร์ จิตวิญญาณ สิ่งเร้นลับต่างๆ มีพรรคพวกเพื่อนฝูง ทีมงาน คนให้การสนับสนุนดี จนกลายเป็นการเป็นงานจริงจังในเรื่องการปราบผี
แต่หลังวัย45ปีเป็นต้นไปนี้ หลักวาสนากลับให้โทษ เป็นห่วงหมอปลาเป็นอย่างมากว่า หากไม่ได้จริงจังในการปฏิบัติธรรม ไม่ได้เข้าถึงธรรมชั้นลึก ไม่มีการคลี่คลาย ผ่อนคลายกรรม ไม่มีการทำคุณทดแทนคุณ ไม่มีการโปรดภาคทิพย์อย่างถูกวิธี ไม่มีการให้อภัยกัน
ทั้งศัตรูที่เป็นคน และที่มองไม่เห็น เวลาเขาเอาคืนนั้น ตัวแรกคือสักกายทิฎฐิ อีโก้ หรือความมีตัวตน หากเราวางไม่ได้ เราก็จะข้ามกรรมเหล่านี้ไม่พ้น
กำลังสมาธิ กำลังสติ กำลังการปล่อยวาง รวมถึงอนุภาพในภายในมีไม่เพียงพอ ที่จะปลดล็อคกรรมซึ่งกันและกันได้
อาจารย์กลัวอย่างเดียวว่า หมอปลาอาจพลาดพลั้งถึงขนาดคิดสั้นได้ แต่ก็ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
ต่อไปเรามาสรุปกันที่หลักลัคนา หลักนี้เสวยสมโณฤกษ์ ทับดาว๗สนิทองศา ติดพิษเขี้ยว เป็นกรรมเก่าติดตัวมาในเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร ทั้งที่มาเกิดเป็นคนแล้ว และเป็นภาคทิพย์อยู่ คอยบั่นทอนเส้นทางชีวิต
ซึ่งอนาคตหากวงโคจรเข้าสู่ชีวิตขาลงเมื่อใด ทุกอย่างก็จะประดังเข้ามาพร้อมๆกัน อันนี้แหละน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก
เพราะการแก้กรรมอันแท้จริงคือ คำตถาคต กัมมะนิโรธคามณีปฏิปทา ดับกรรมได้ด้วยโลกุตรธรรม
หมอปลาจะรู้หรือไม่? แก้ถูกหรือไม่?
หมอปลาจะรู้หรือไม่? แก้ถูกหรือไม่?
หรือหากม่านหมอกความมีตัวตน อีโก้(สักกายะทิฐิ)บังตา ก็อาจจะนำมาซึ่งความยุ่งเหยิงในชีวิต เหมือนกลุ่มด้ายที่พันกันยุ่งนั่นเอง
ทางออกจากวิบากกรรม อันเป็นกรรมเก่าและกรรมใหม่ ของหมอปลาในครั้งนี้นั้น คือการบวชบรรพชา หรือปลีกวิเวก ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นเวลา5ปี
หลังจากนั้นกลับเข้าสู่วงโคจรของโลกโซเชียลใหม่อีกครั้ง คนก็จะให้การยอมรับมากขึ้น มีภูมิธรรมสูงขึ้น มีความสุขุมเยือกเย็น คัมภีรภาพ เป็นพระมาจากข้างใน ทางนี้แหละดีที่สุด และมีแต่ความเจริญ
แต่หากทะเลทิฎฐิขวางอยู่ข้างหน้า แล้วพยายามจะว่ายข้ามมัน ทั้งๆที่ทะเลนั้นเป็นแค่เพียงภาพลวงตา ที่ปุถุชนหลอกปุถุชน สวมหัวโขนให้ปุถุชน และแก้อริยะ-ด้วยความคิดปุถุชน ชีวิตหมอปลาหลังจากนี้ ก็บอกได้เลยว่า “เหนื่อยใจแทน”ค่ะ
0 comments:
Post a Comment