ตำแหน่งต่างๆของดาวราหู
คราวนี้เราต้องหมั่นจดจำ ตำแหน่งของดาวราหูในจักรราศีให้ดีดี เพราะเราต้องใช้บ่อย ใช้มากในอนาคต
(1)ดาวราหูเป็นอุจจ์ในราศีพิจิก “อุจจ์”แปลว่า มีเยอะ มีมาก หากเปรียบเทียบเป็นน้ำก็เต็มถัง100%พอดี
(2)ส่วนที่ยังไม่เต็มอุจจ์ มีแค่ประมาณ80% เรียกว่า“อุจจาวิลาศ” ก็คือ มีเยอะ มีมากเหมือนกัน แต่พร่องไป20%ของถัง นี่คือดาวราหูที่เป็นอุจจาวิลาศในราศีตุลย์นั่นเอง
(3)ดาวราหูที่ราศีตุลย์นี้ มียศเพิ่มไปอีกตำแหน่งว่าเป็น“ราชาโชค” อุจจาวิลาศที่แปลว่า มีเยอะ มีมากแล้ว บวกราชาโชคเข้าไป ก็ได้มาง่าย ไม่ต้องลงทุนมาก ก็ได้มาเป็นกอบเป็นกำนั่นเอง
(4)ส่วนดาวราหูที่เป็น“อุจจาภิมุข”ในราศีธนูนั้น คือเลยอุจจ์มาแล้ว พร่องไปนิดหน่อยแล้ว ถ้าเป็นน้ำก็เหลือประมาณ70%ของถัง
(5)คราวนี้ฝั่งตรงกันข้ามกับอุจจ์ ที่แปลว่า มีเยอะ มีมากในราศีพิจิก ตรงกันข้ามก็คือราศีพฤษภ เมื่อดาวราหูมาสถิตในราศีพฤษภแบบนี้ เราเรียกว่ามีตำแหน่งเป็น“นิจ” ที่แปลว่า มีน้อย ไม่ค่อยพอเพียง ถ้าเป็นน้ำในถัง ก็ค่อนข้างแห้งขอดนั่นเอง
(6)ส่วนฝั่งตรงกันข้ามกับดาวราหูที่เป็นเกษตรในราศีกุมภ์ คือราศีสิงห์ ดาวราหูตรงนี้มีตำแหน่งเป็น“ประ” มีความหมายตรงกันข้ามกับเกษตรคือ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ของของตน ไม่สมบูรณ์ ไม่สม่ำเสมอ นี่คือความหมายของดาวราหูที่เป็นประนั่นเอง
(7)ตรงนี้ให้จำเพิ่มไปว่า ดาวเสาร์ที่ราศีกุมภ์นั้น มีตำแหน่งเป็น“มูลเกษตร” ความหมายเหมือนกับเป็นเจ้าเรือนเกษตรเช่นเดียวกับดาวราหู ฉะนั้นฝั่งตรงกันข้ามกับดาวเสาร์ในราศีกุมภ์ ก็คือราศีสิงห์ จึงทำให้หากมีดาวเสาร์มาสถิตราศีสิงห์นี้ มีตำแหน่งเป็น“ประ”ไปด้วย มีความหมายตรงกันข้ามกับเกษตรเช่นเดียวกันคือ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ของของตน ไม่สมบูรณ์ ไม่สม่ำเสมอนั่นเอง
(8)ตำแหน่งสุดท้ายให้จำเพิ่มว่า ดาวราหูมีตำแหน่งเป็น“มหาจักร”ที่ราศีมังกร แปลว่า โลดโผน พิสดาร ไม่เหมือนชาวบ้าน แปลก ยาก แต่ทำแล้วออกมาดี เช่น หากดาวราหูหมายถึงความหลงใหลคลั่งไคล้ในสิ่งที่ชอบ สมมุติว่าเป็นคนที่ชอบศึกษาเรื่องเครื่องรางของขลัง ก็จะสะสมมาก เต็มบ้าน เป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญ เจาะลึก รู้ประวัติ เป็นเซียนพระเครื่องที่โด่งดังระดับประเทศไปเลย นี่คือความหมายของมหาจักรคือ เล่นใหญ่ จัดใหญ่ หลงใหลคลั่งไคล้เป็นชีวิตจิตใจนั่นเอง
0 comments:
Post a Comment